top of page

ระวังประชาชนหนี้ท่วม เศรษฐกิจพัง ก่อนจะได้ใช้เงินหมื่นดิจิทัล

อัปเดตเมื่อ 11 พ.ค.

อนันต์ สาครเจริญ รองเลขาธิการพรรคไทยภักดี


นายกเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย คืออุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชาติในเวลานี้

เพราะการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจช้าเช่นนี้ จะทำให้เศรษฐกิจซึมลึกยากจะฟื้นคืนในระยะเวลาอันสั้น


การอัดฉีดเงิน ไม่ว่าจะได้มาจากงบประมาณหรือเงินกู้ก็ดี หัวใจสำคัญคือต้องทำให้เร็ว แต่รัฐบาลชุดนายกเศรษฐากลับเจอโรคหลงลำพอง หน้าหนา ไม่ยอมรับว่านโยบายเงินหมื่นดิจิทัลของตน ไม่สามาทำให้สำเร็จได้จากการผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่เพื่อรักษาหน้าต้องดำเนินการต่อแต่ขอขยายเวลาออกไป เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เศรษฐกิจจะตกต่ำ มันไม่รอเงินหมื่นดิจิทัลของพวกท่านนะครับ


รูปแบบการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมีมากมายหลายรัฐบาล ที่เขาเคยทำไว้สำเร็จ ได้พยุงเศรษฐกิจไว้ได้มาจนถึงนายเศรษฐา มาเป็นนายก และพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำรัฐบาล

จนบัดนี้ใกล้จะครบ 1 ปี ของการดำรงตำแหน่ง แต่ไม่สามารถบริหารบ้านเมือง แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนได้เลย ซ้ำร้าย จากการตกต่ำของเศรษฐกิจไทย ที่ต่ำลงอย่างน่าใจหาย เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวแล้ว ยังส่งผลต่อทำให้สภาวะหนี้ภาคครัวเรือนโตขึ้น ประชาชนหนี้สินล้นพ้นตัว สูญเสียเครดิต เป็นหนี้เสียหลายล้านคน ทั้ง ๆ ที่ประชาชนผู้มีเครดิตจากการประกอบการกิจการเล็กกลางใหญ่ จากงานมีหน้าที่การงานมีรายได้ที่ดี ที่เป็นฟันเฟืองของระบบเศรษฐกิจกลับต้องสะดุดล้มเพราะความไม่เอาไหนของรัฐบาลนายกเศรษฐาและแกนนำพรรคเพื่อไทยที่อ่อนด้อยประสบการณ์อย่างคุณอุ๊งอิ๊ง


ยกตัวอย่างการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบที่ลงไปกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของพี่น้องประชาชน ถึงฐานรากเศรษฐกิจในระดับชุมชน อย่างโครงการคนละครึ่ง รัฐออกให้ครึ่งหนึ่งประชาชนช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง ประสบความสำเร็จเป็นที่ต้องการของประชาชน กลับไม่รีบเร่งนำมาปัดฝุ่นดำเดินการต่อ แก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที เพราะมัวแต่กลัวเสียหน้า

.

บัดนี้ ประชาชนทั้งประเทศเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า การฝากประเทศชาติไว้กับนายกเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถบริหารประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนให้กินดีอยู่ดีได้

สุดท้ายขอถามใจพี่น้องประชาชน ยังไว้ใจนายกเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยอยู่อีกไหม?

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page