ค่านิยมกับนักการเมือง ช่วยบ้านเมืองจริงหรือ? โดย ภูดิส กลิ่นวิชิต

[ค่านิยมกับนักการเมือง ช่วยบ้านเมืองจริงหรือ?]

ผมก้าวเข้าสู่การเมืองด้วยความรู้สึก “จิตอาสา” อยากทำงานเพื่อบ้านเมือง ร่วมกับพรรคไทยภักดี พรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความถูกต้องเพื่อความสงบสุขสามัคคีของประเทศ

แต่เมื่ออยู่ในวงการการเมือง ทั่ว ๆ ไป จริง ๆ จึงได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า “ธุรกิจการเมือง” — การสร้างความร่ำรวยให้กับนักการเมืองและพวกพ้อง ผ่านกลไกทางการเมืองที่ประชาชนไม่ค่อยเห็นชัด ๆ

พร้อมกันนั้น ประชาชนบางส่วนกลับมีค่านิยมว่า ตัวแทนที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ ต้องเป็น “คนรวย” จึงจะช่วยเหลือปากท้องได้ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เราก็เห็นแล้วว่า นักการเมืองรวยขึ้นจริง ธุรกิจเขาเฟื่องฟู แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนกลับไม่ดีขึ้นเลย

เพราะความจริงคือ นักการเมืองไม่ได้เอาเงินตัวเองมาสร้างนโยบายหรอก เขาใช้ “เงินภาษีของประชาชน” ต่างหาก ดังนั้น คำตอบของปัญหาปากท้องจึงไม่ได้อยู่ที่เลือกคนรวย แต่อยู่ที่เลือกคนที่บริหารเงินภาษีอย่างโปร่งใส

• ถ้าโกง ปากท้องคนไทยไม่มีวันดีขึ้น

• ถ้าไม่โกง ปากท้องก็มีทางไปต่อได้แน่นอน

แล้วเราจะเลือกคนประเภทไหน เข้ามาบริหารประเทศ?

ส่วนตัวผมขอเดินหน้าด้วย “จิตอาสา” ร่วมกับพรรคไทยภักดี เพื่อปกป้องสถาบัน ศาสนา ชาติ พระมหากษัตริย์ และยึดมั่นในความถูกต้อง เพื่อบ้านเมืองตลอดไป

[เงินซื้อเสียงไม่กี่บาททำลายทั้งชาติมานานแล้ว]

ประโยคนี้ เป็นข้อเท็จจริงเชิงความคิดเห็น (value statement) ครับ การซื้อเสียงมีอยู่จริงในสังคมไทย และเป็นปัญหาที่พูดถึงกันมานาน "เงินที่ใช้ซื้อเสียง" มักเป็นจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับ "ผลประโยชน์ที่นักการเมืองบางคนได้รับหลังเข้าสู่อำนาจ"

สิ่งที่ถูกวิจารณ์คือ “ผลกระทบ” ที่ตามมา เช่น "นักการเมืองไม่จำเป็นต้องพึ่งนโยบายที่ดีหรือการทำงานเพื่อประชาชน" แต่ "พึ่งพาการใช้เงินซื้อคะแนนเสียงแทน" ทำให้เกิดการคอร์รัปชันและระบบการเมืองบิดเบี้ยว

เพราะฉะนั้นคำพูดว่า “เงินซื้อเสียงไม่กี่บาททำลายทั้งชาติ” นี้อาจเป็นคำเตือนที่ “ตรง” และ “แรง” เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการไม่รับเงินซื้อเสียงอีกต่อไป "ให้เป็นค่านิยมใหม่ของคนไทย" เพื่อประโยชน์ของคนไทย อย่างแท้จริงครับ

#ไทยภักดียืนข้างความถูกต้อง