พรรคไทยภักดี ประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 2/2568 จัดทัพ พร้อมชูนโยบายปราบโกง - ปฏิรูปกองทัพ - สว.ราชประชาสมาสัย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวในการประชุมใหญ่สามัญพรรค ครั้งที่ 2/2568 เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่างและกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งวันนี้ (วันที่ 20 กรกฏาคม 2568) ว่า แม้พรรคไม่มี สส. ถูกค่อนขอดเป็นพรรคสอบตก แต่พรรคยังโตวันโตคืน เงินอุดหนุนพรรคติด 1 ใน 5 พรรคที่ได้รับเงินสูงสุด รวมถึงผลโพลล์สำนักต่างๆ พูดถึงพรรคไทยภักดีมากขึ้น วันนี้ประชาชนตั้งคำถาม ประเทศมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีโดนข้อหาขายชาติ ซึ่งวันหนึ่งจะต้องหลุดจากตำแหน่งและ สทร.จะต้องกลับไปอยู่ในคุก หรือไม่ก็หนีไปต่างประเทศ

“ผมติดตามการไต่สวนคดีชั้น 14 ทุกนัด สทร.มี 2 คดี คือ คดี ม.112 กับ คดีชั้น 14 แต่คดี ม.112 นายทักษิณมีการลดจำนวนพยาน เพราะเห็นแนวโน้มว่าตัวเองจะรอด ซึ่งการนัดวันฟังคำสั่งศาลจะมีขึ้นก่อนคดีชั้น 14 ดังนั้นเชื่อว่า หลังหลุดคดี ม.112 นายทักษิณไปแน่ โดยใช้ข้ออ้างไปเจรจาธุรกิจ เพราะถ้ากลับมา คดีชั้น 14 นายทักษิณต้องกลับไปติดคุกสถานเดียว” ประธานพรรคไทยภักดีกล่าว

นพ.วรงค์ กล่าวชี้แจงต่อสมาชิกพรรคว่า ปัญหาประเทศมีรากจากการทุจริตทั้งสิ้น เวียดนามพัฒนาประเทศก้าวหน้าเพราะมีนโยบาบปราบโกงที่เด็ดขาด ต่างจากประเทศไทย ดังนั้นไทยภักดีจึงประกาศนโยบายชัด ในเมื่อประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ แต่ถามว่ามีอำนาจจริงไหม ไม่ใช่มีเฉพาะในคูหาเลือกตั้ง ประชาชนต้องมีอำนาจต่อเนื่อง ต้องฟ้องนักการเมืองโกงได้ นักการเมืองโกงจะไม่ให้โอกาสทำเรื่องขอลดโทษ นักการเมืองโกงมูลค่าเกิน 20 ล้านบาท ต้องมีโทษประหารชีวิตสถานเดียว

นพ.วรงค์ กล่าวว่า พรรคการเมืองบางพรรคกลัวการรัฐประหารเลยต้องการตัดงบประมาณกองทัพ แต่หลักคิดของพรรคมองว่า อะไรที่ขาดที่เกินก็ต้องแก้ไข เช่นอัตรากำลังนายพลที่มากเกินไปต้องปรับลดให้เหมาะสม แล้วไปเพิ่มศักยภาพกำลังพล เทคโนโลยีรองรับสงครามรูปแบบใหม่ ต้องเพิ่มงบเพื่อพัฒนาศักยภาพกองทัพที่ทันสมัย เช่นเดียวกับตำรวจวันนี้ส่วนใหญ่ฟังแต่นักการเมือง แม้กระทั่งตำรวจที่เป็นหมอ หน้าที่ตำรวจต้องดูแลประชาชนไม่ควรรวมศูนย์เหมือนทหารแต่ต้องโอนให้ไปอยู่กับจังหวัด และไม่ต้องมีชั้นยศ

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบัน สว. มีปัญหาเยอะ กติกาที่ผ่านมาทำให้ สว.มีปัญหาเพราะเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง พรรคเสนอให้มี สว.ราชประชาสมาสัย ซึ่งมีที่มาที่ไปเป็นกลางจริงๆ โดยให้องคมนตรีคัดเลือกบุคคลอย่างน้อย 2 เท่าของจำนวนที่พึงมี แล้วให้ประชาชนทั้งประเทศเลือกโดยตรงให้ได้ตามจำนวน

นพ.วรงค์ กล่าวว่า พรรคยังกำลังทำรายละเอียดของนโยบายอีกหลายด้าน เช่น

1. ต้องลดขนาดของกระทรวงศึกษา แล้วไปทำโรงเรียนให้ใหญ่ขึ้น

2. นโยบายประกันราคาข้าว ต้องนำราคาข้าวในประเทศ มาเฉลี่ยคืนชาวนา ไม่ใช่เอาราคาส่งออกมากำหนดราคาข้าวเปลือก

3. รวมถึง นโยบายค่าไฟฟ้า จะต้องปลดล็อคให้มีการแข่งขันด้านราคาอย่างเสรี เพื่อให้ค่าไฟอยู่ที่หน่วยละ 2.50 บาทหรือไม่เกิน 3 บาท เป็นต้น

   
   

ดร.กรรญดา ณ หนองคาย หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวว่า พรรคไทยภักดีไม่มีเจ้าของ ไม่มีตระกูล ไม่มีเจ้าพ่อ ไม่มีนายทุน ไม่มีบ้านใหญ่ มีแต่ “ประชาชนผู้รักชาติผู้ศรัทธาในแผ่นดิน” ที่เป็นกำลังใจให้เราเดินต่อในทุกก้าว

ขอปลุกกำลังใจให้พี่น้องยืนหยัดและศรัทธา เพราะถ้าเรายังยืนหยัด ถ้าเรายังศรัทธา ประเทศไทยยังมีวันใหม่เสมอ และตราบใดที่ยังมีพรรคไทยภักดี เราจะไม่ยอมให้คนโกงชาติเดินเหนือกฎหมาย เราจะไม่หยุด จนกว่าความถูกต้องจะกลับมายืนตรงกลางแผ่นดินนี้อีกครั้งค่ะ

#ไทยภักดี รักชาติ ปกป้องสถาบัน ปราบโกงทุกระดับ ไม่เปิดทางให้ทุนครอบงำ เพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน เพื่ออนาคตของชาติ#